ปัญหาของเกษตรกรที่มีอาชีพทำไร่มะลิ
คือการรักษาความสดของดอกมะลิที่เก็บได้ไม่นาน มะลิจะเริ่มเน่าเสีย
กลีบดอกอ่อน ทำให้ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
ไม่สามารถที่จะนำไปร้อยเป็นพวงมาลัยได้ การทดลองครั้งนี้
จึงได้ศึกษาวิธีการทดลองการเก็บรักษาดอกมะลิด้วยสารเคมีชนิดต่างๆ
ที่มีผลต่อความคงทนของดอกมะลิ
โดยแบ่งการทดลองออกเป็น 5 ขั้นตอน คือ
ขั้นตอนที่ 1 กำหนดค่าดัชนีการบานและการตูมของดอกมะลิ พบว่าดอกมะลิที่บาน ที่ไม่นำไปร้อยพวงมาลัย
มีเส้นผ่านศูนย์กลางดอกระหว่าง 9.10 mm - 10.00 mm มีค่าเฉลี่ย 9.45 mm ส่วนดอกมะลิที่ตูมมีค่าเส้นผ่านศูนย์กลาง
ของดอกระหว่าง 8.95 mm - 8.10 mm
ขั้นตอนที่ 2 ศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมของสารเคมีชนิดที่มีผลต่อความคงทนของดอกมะลิ โดยทดลองกับ
สารเคมี 4 ชนิด คือ ยาแอนตาซิล
ยาพารา ยาทัมใจ ปูนแดง ในสารละลาย 4 ชนิด ความเข้มข้น คือ
125 mg
250 mg 375 mg 500 mg ผสมน้ำ 500 cm3
ผลการทดลองพบว่ายาแอนตาซิล
ความเข้มข้น 500
mg ผสมน้ำ 500 cm3 เก็บรักษาดอกมะลิไว้ได้นานที่สุด
3 วัน 8
ชั่วโมง สารละลายปูนแดงทุกความเข้มข้นเก็บรักษาดอกมะลิไว้ได้นาน
2 วัน 12 ชั่วโมง
เช่นเดียวกับสารละลายยาพาราทุกความเข้มข้นเก็บรักษาดอกมะลิไว้ได้นาน 2 วัน
8 ชั่วโมง และสารละลาย
ยาทัมใจทุกความเข้มข้น
เก็บรักษามะลิได้นาน
2 วัน
ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาเปรียบเทียบชนิดของสารเคมีที่มีผลต่อความคงทนของดอกมะลิ
ผลการทดลองพบว่าสารละลายยาแอนตาซิลความเข้มข้น 500 mg ผสมน้ำ
500 cm3 สามารถทำให้ดอกมะลิสด
กลีบดอกไม่อ่อน เก็บรักษาดอกมะลิได้ดีกว่าสารทุกชนิด
ที่ใช้ในการทดลอง คือ เก็บรักษาดอกมะลิได้ 3 วัน 8 ชั่วโมง
ดีกว่ากลุ่มควบคุม ซึ่งเก็บได้นานเพียง 12 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ 4 ศึกษาหาระยะเวลาที่เหมาะสมในการแช่ดอกมะลิในสารเคมีเพื่อรักษาความคงทน
โดยใช้สารละลายยาแอนตาซิล
ที่เก็บรักษาดอกมะลิได้ดีที่สุดจากการทดลองตอนที่ 3 มาทดลอง ผลการทดลอง
พบว่าเวลาที่ใช้ในการแช่สารเคมีในการเก็บรักษาดอกมะลิในยาแอนตาซิลนาน 2 ชั่วโมง และ
3 ชั่วโมง
จะทำให้ดอกมะลิมีสีเหลือง
กลีบดอกอ่อน โดยเฉพาะถ้าแช่ดอกมะลิ 3 ชั่วโมง กลีบดอกมะลิจะอ่อนจนเละ
ไม่สามารถร้อยมาลัยได้
ขั้นตอนที่ 5 ศึกษาหาสภาพกรด
- เบสของสารที่ใช้ในการรักษาความสดของดอกมะลิ
ผลการทดลองพบว่าสารละลายยาทัมใจ
มีสภาพความเป็นกรดมากที่สุด คือมีค่า pH 2.2 สารละลายยาพารา
มีสภาพเป็นกลาง คือมีค่า pH 7.0 สารละลายยาแอนตาซิลสภาพเป็นเบสอ่อน
คือมีค่า pH 8.1 ส่วนปูนแดง
มีสภาพเป็นเบสมากที่สุด
คือมีค่า pH
12.0
ประโยชน์ของโครงงานนี้
เป็นการลดต้นทุนในการผลิตของเกษตรกรเพราะดอกมะลิมีความสด
กลีบดอกไม่อ่อน
ยืดระยะเวลาการจำหน่าย ทำให้ลดการสูญเสียของดอกมะลิ และทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น